อาการดราม่าที่เกิดกับผู้หญิงบางรายในช่วงก่อนมีประจำเดือน
และมักจะเกิดขึ้นทุกเดือน โดยจะมีอาการก่อนประจำเดือนมาเฉลี่ยราวๆ 7-10 วัน
เมื่อประจำเดือนมาอาการดราม่าก็จะหายไปเอง
อาการดังกล่าวจะเกิดกับบางคนเท่านั้น ไม่ได้เกิดกับผู้หญิงทุกคน
.
ลักษณะอาการ คือ หงุดหงิดมาก เครียดหรือวิตกกังวลมาก
อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย และอาจมีอาการอื่น ๆ
ได้แก่ เบื่ออาหารหรือกินเยอะเกินไป นอนไม่หลับหรือนอนเยอะเกินไป
สมาธิไม่ดี ความจำไม่ดี เบื่อหน่าย อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง มีพฤติกรรมเก็บตัว
.
บางคนมีอาการทางร่างกายร่วมด้วย อาจรู้สึกบวม ท้องอืด
ท้องป่อง ปวดข้อ ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ปวดหลัง และเมื่อประจำเดือนมาอาการเหล่านั้นก็จะหายไป
.
คนที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว มักมีอาการทุกเดือน บางเดือนมีอาการมาก
แต่บางเดือนอาจมีอาการน้อย หรือบางคนเป็นน้อยอยู่ 2-3 เดือน
แล้วกลับมาเป็นมากติดต่อกันหลายเดือน
.
สาเหตุหลักเกิดจาก ฮอร์โมนเพศเปลี่ยนแปลงไป
หรือบางคนมีระบบสารรับรู้ในเรื่องของอารมณ์ตอบสนอง
ผิดปกติต่อฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลง
.
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้
(เฉพาะเพศหญิง) พบว่าอัตราผู้ป่วยกว่า 50% มีปัจจัยเกี่ยวข้องกับ
พันธุกรรม หรือบางคนมีพื้นอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงง่าย ฉุนเฉียวง่าย
ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีอยู่แล้ว
.
1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนสามารถช่วย
ให้ลดระดับความเครียดภายในร่างกายได้
.
2.ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ
.
3.หลีกเลี่ยงชาและกาแฟ เนื่องจากในชาและกาแฟมีสารกระตุ้นที่
ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดซึมเศร้า โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน
.
4.ควรหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เนื่องจากเมื่อมีประจำเดือน
ขณะที่ปัญหารุมเร้าหลายอย่าง อาการจะยิ่งแย่ลง
ดังนั้นควรจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน เพื่อลดปัจจัยกระตุ้นด้านอารมณ์
.
5.การได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพราะช่วงที่ประจำเดือนใกล้มานั้น
ร่างกายจะโหยหาน้ำตาลเป็นพิเศษ ดังนั้นไม่ควรลดน้ำหนักด้วยวิธีลดแป้ง
เพราะยิ่งลดร่างกายจะยิ่งต้องการมากขึ้น
.
คำแนะนำดังกล่าวเป็นเพียงข้อแนะนำเบื้องต้น
ทางที่ดีที่สุด ควรสังเกตความผิดปกติของร่างกาย
แล้วรีบไปพบแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป